อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ระหว่างรัสเซียกับไซปรัส ซึ่งมีข้อตกลงให้รัฐบาลอังกฤษสามารถเข้ามาใช้ฐานทัพในประเทศได้ด้วย เกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียกระหว่างรัฐบาลมอสโกกับตะวันตกเกี่ยวกับ ปัญหาในยูเครน ซึ่งนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ผู้นำอังกฤษ ประกาศในวันเดียวกัน เตรียมส่ง "ที่ปรึกษาทางทหาร" เดินทางเข้าไปในยูเครนด้วยในเวลาเดียวกัน นายจอห์น แคร์รี รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวหารัฐบาลรัสเซียว่ายังคงรุกรานยูเครน เห็นได้ชัดจากการที่กลุ่มกบฏในภาคตะวันออกสามารถยึดเมืองเดบัลต์เซเว ขณะเดียวกันยังคงยึดครองพื้นที่เกือบทั้งหมดของเมืองโดเนตสก์และลูฮันสก์เอา ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น โดยหากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป รัฐบาลวอชิงตันอาจมอบ "บทลงโทษ" ที่จะทำลายเศรษฐกิจของรัสเซียให้ตกต่ำมากกว่านี้
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงนิโคเซีย ประเทศไซปรัส เมื่อวันที่ 26 ก.พ. ว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และประธานาธิบดีนิคอส อนาสตาเซียเดส ผู้นำไซปรัส ลงนามร่วมกันในข้อตกลงทางเศรษฐกิจและความมั่นคงรวม 8 ฉบับเมื่อวันพุธ โดยหนึ่งในนั้นคือการอนุญาตให้กองทัพเรือรัสเซียสามารถนำเรือมาจอดเทียบท่า ได้ทุกแห่งในไซปรัส
หลังเสร็จสิ้นพิธีลงนาม ปูตินกล่าวว่าข้อตกลงดังกล่าวเป็นความร่วมมือระดับทวิภาคระหว่างรัสเซียกับ ไซปรัสเท่านั้น เพื่อเพิ่มความร่วมมือในมาตรการต่อต้านการก่อการร้ายและป้องกันการก่อเหตุ ของกลุ่มโจรสลัดในทะเลแถบนั้น ไม่มีความเกี่ยวข้องกับ "ประเทศที่สาม" แต่อย่างใด และขอให้ทุกฝ่ายอย่า "วิตกกังวล" จนเกินไป
แหล่งที่มา : เดลินิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น