พลเอกฉัตรชัยสาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่ามอบหมายให้ผู้บริหารกระทรวงลงพื้นที่ตรวจสอบผลกระทบจากภัยแล้ง เพื่อออกมาตรการช่วยเหลือและเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร ขณะเดียวกันในวันที่ 13 ก.พ. นี้ตนแลผู้บริหารของกระทรวงพาณิชย์จะพบปะรัฐบาลจีนเพื่อติดตามความคืบหน้า การนำเข้าข้าวไทยหลังจากได้มีลงนามซื้อขายข้าวจีทูจีกับรัฐบาลจีนเพิ่มอีก 1 ล้านตัน
ทั้งนี้ยอมรับว่าผลกระทบจากภัยแล้งมีผล 2 ด้าน ในแง่ดีคือการที่ผลผลิตลดลงย่อมมีผลต่อราคาข้าวสูงขึ้น โดยเฉพาะข้าวในสต็อกรัฐบาลแต่ข้อเสียคือจะกระทบต่อการส่งออกเพราะราคาข้าว ไทยจะแข่งขันกับประเทศคู่แข่งได้ยากขึ้นจนอาจทำให้เป้าการส่งออก 10ล้านตันในปีนี้ เป็นไปได้ยาก
“คงต้องติดตามในเดือนมี.ค. นี้ หากภัยแล้งรุนแรงก็คงต้องปรับประมาณการส่งออกข้าวใหม่ จากตัวเลขภาครัฐระบุว่าภัยแล้งทำให้ข้าวหายไป 50% แต่เอกชนประเมินน่าจะหาย 30% อย่างไรก็ตามเชื่อว่ารัฐบาลจะหามาตรการช่วยเหลืออย่างอื่นแทนที่จะมุ่งขยับ ราคาข้าวเปลือก เพราะหากเน้นขยับราคาก็อาจไม่เป็นผลดีต่อการค้า “นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯได้ลงพื้นที่สำรวจการเพาะปลูกข้าวตามจังหวัดต่างๆในภาคกลางเพื่อสำรวจ ผลผลิตข้าวเปลือกนาปรัง 58 พบว่า พื้นที่การเพาะปลูกลดลงประมาณ 30% เนื่องจากบางส่วนลดพื้นที่เพาะปลูกเพราะวิตกเรื่องขาดแคลนน้ำส่วนที่มี การเพาะปลูกก็เริ่มเห็นผลกระทบจากภัยแล้งแล้วคาดว่าผลผลิตข้าวเปลือกนาปรัง รอบแรก ที่ประเมินไว้ 5-6 ล้านตัน น่าจะหายไป 30% และหากเดือนเม.ย. นี้มีภัยแล้งรุนแรงจะส่งผลอย่างมากกับผลผลิตข้าวเปลือกนาปรังรอบ2 อาจลดลงอีก 40-50% จากผลผลิตที่ประเมินไว้ 3-4 ล้านตัน รวมกันผลผลินข้าวเปลือกนาปรังปี 58 จะลดลง1-2 ล้านตัน
แหล่งที่มา : เดลินิวส์
Source: พิษภัยแล้งทำข้าวนาปรังลดลง30%
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น