อย่างไรก็ตาม จากกรณีวัดธรรมกาย ทำให้ทางคณะกรรมการฯ ได้เสนอกลไกการแก้ไขปัญหา ดังนี้ 1.เรื่องเงินของพระและวัด ต้องกำหนดให้เกิดความชัดเจนว่า ครอบครองได้หรือไม่ ต้องเปิดเผยให้ตรวจสอบได้หรือไม่ 2.มีองค์กรมาตีความพุทธบัญญัติให้ชัดเจนคล้ายกับศาลรัฐธรรมนูญ แทนมหาเถรสมาคม ซึ่งปัจจุบันทำหน้าที่ทั้งบริหารนิติบัญญัติและตุลาการในองค์กรเดียว และ 3.การส่งเสริมวัดทั่วประเทศให้มีส่วนร่วมของประชาชน ไม่ใช่อำนาจบริหารอยู่ที่เจ้าอาวาสเพียงรูปเดียว คณะสงฆ์ต้องดูแลวัดและกิจกรรมของสงฆ์ร่วมกันด้วย“คณะกรรมการฯ มีหน้าที่เพียงวิเคราะห์ศึกษา สาเหตุ ปัญหาต่าง ๆ เรื่องดังกล่าวถือเป็นกรณีศึกษาอย่างหนึ่ง ดังนั้น คณะกรรมการฯ ก็ต้องจัดทำข้อเสนอแนะไปยังประธาน สปช. เพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุม สปช.ต่อไป แต่เมื่อเราได้ศึกษาพิจารณาแล้ว แต่ไม่เกิดการปฏิบัติตาม ก็จะส่งความเห็นของคณะกรรมการฯไปยังมหาเถรสมาคมและสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ รวมทั้งเสนอเรื่องดังกล่าวไปยังนายกรัฐมนตรีต่อไป” นายไพบูลย์
เมื่อวันที่ 19 ก.พ. นายไพบูลย์ นิติตะวัน สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในฐานประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธ ศาสนา กล่าวว่า ที่ประชุมได้เชิญผู้แทนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มาชี้แจงในกรณีวัดพระธรรมกาย โดยผู้แทนสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ชี้ว่า พระเทพญาณมหามุนี หรือหลวงพ่อธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดธรรมกาย และประธานมูลนิธิธรรมกาย ขาดจากความเป็นภิกษุ ตามพระลิขิต สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก และหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ต้องบังคับการให้เป็นไปตามมติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ 16/2542 เมื่อวันที่ 20 พ.ค.2542 และยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวกับการไปยุบวัดธรรมกาย เพราะเป็นวัดที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพียงแต่ต้องการเปลี่ยนแปลงคำสอนให้ถูกต้องตามแนวพุทธบัญญัติอย่างถูกต้อง ตามธรรมวินัย
นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า คณะกรรมการฯ ไม่ได้มีหน้าที่ไต่สวนข้อเท็จจริง เราเพียงเรียกบุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล เพื่อประกอบการวิเคราะห์ความเห็น ซึ่งในวันที่ 24 ก.พ. จะเชิญตัวแทนจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มาให้ข้อมูล เกี่ยวกับการกระทำของหลวงพ่อธัมมชโย และวัดธรรมกาย ที่ไปรับเงินบริจาคจากนายศุภชัย ศรีศุภอักษร ผู้จัดการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น เพราะกรณีดังกล่าวอาจถือได้ว่าเป็นการร่วมสมคบคิดในการฉ้อโกงจึงต้องนำกรณี ดังกล่าวไปศึกษาต่อ รวมทั้งกำหนดแนวทางในการปฏิรูปด้านศาสนา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก
แหล่งที่มา : เดลินิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น