
ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีดังกล่าวสืบเนื่องจาก ป.ป.ช.ได้รับเรื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้จัดส่งรายชื่อข้าราชการและเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 4 พันล้านบาท ให้แก่ผู้ประกอบการอย่างมีเงื่อนงำ โดยในขณะนั้นนายศุภกิจ มีตำแหน่งเป็น ผอ.สำนักงานสรรพากรเขต 22 บางรัก ที่มีความเสียหายมากที่สุดเมื่อวันที่ 26 ก.พ.นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงมติที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ว่า ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีมติแต่งตั้งอนุกรรมการไต่สวนกรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่านายศุภกิจ ระยะการ หรือสิริพงศ์ ริยะการธีรโชติ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสรรพากรพื้นที่ กทม.22 ร่ำรวยผิดปกติ และมีคำสั่งแต่งตั้งอนุกรรมการไต่สวน ลงวันที่ 22 ธ.ค.2557 โดยมี น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช.เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวนนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ตรวจสอบพบว่านายศุภกิจ มีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าจะมีการโอน ยักย้าย แปรสภาพ หรือซุกซ่อนทรัพย์สินดังกล่าว จึงได้มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของนายศุภกิจและผู้ที่เกี่ยวข้องไว้เป็นการ ชั่วคราว มูลค่ารวมประมาณ 48 ล้านบาทเศษ เช่น เงินฝากในธนาคาร ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ยานพาหะ นอกจากนี้ยังได้มีคำสั่งให้นายศุภกิจ แสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของตนเอง คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อ ป.ป.ช.ภายใน 30 วัน
แหล่งที่มา : เดลินิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น