นอกจากนี้ยังพบว่าราคาข้าวผัดหมู ใส่ไข่ ราคา 20-50 บาทต่อจาน เพิ่ม 5 บาทจากปีก่อน 20-45 บาท โดยภาคเหนือต่ำสุด 20-35 บาท ภาคใต้สูงสุด 30-50 บาท, ก๋วยเตี๋ยวหมูชนิดธรรมดาตามร้านค้าทั่วไปราคา 20-40 บาทต่อชาม เพิ่ม 5 บาทจากปีก่อน 15-40 บาทต่อชาม โดยภาคเหนือต่ำสุด ราคา 20-35 บาท ภาคใต้สูงสุด 30-40 บาท ส่วนก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ราคา 3-60 บาท เพิ่มขึ้น 10 บาทจากปีก่อนราคา 15-50 บาทต่อชาม โดยภาคเหนือต่ำสุด 20-40 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือสูงสุด 25-60 บาท, ข้าวเปล่า จานละ 5-15 บาท ลดลง 5 บาทต่อจานจากปีก่อนราคา 5-20 บาท โดยภาคเหนือแพงสุด ราคา 5-15 บาท ภาคเหนือ 5-10 บาทอย่างไรก็ตามกระทรวงพาณิชย์ยอมรับในการเข้า ไปควบคุมราคาอาหารนั้นดำเนินการได้ลำบากมาก เพราะหากจะดำเนินคดีกับรายย่อยก็อาจถูกมองว่าเป็นการใช้กฎหมายรังแกพ่อค้า แม่ค้าที่หาเช้ากินค่ำ หรือผู้มีรายได้น้อย ดังนั้นแนวทางในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าคือการขอความร่วมมือห้างสรรพสินค้า ต่างๆ ได้แก่ เทสโก้ โลตัส บิ๊กซี เม็กโค เซ็นทรัล เดอะมอลล์ และมาบุญครอง ด้วยการจัดให้มีเมนูหลักประมาณ 10 เมนู เช่น ข้าวกระเพรา ก๋วยเตี๋ยว ราดหน้า ผัดซีอิ้ว เป็นต้น จำหน่ายในราคาเมนูละ 30-35 บาท ยกเว้นห้างเดอะมอลล์และเซ็นทรัลที่จะจำหน่ายเมนูละ 40 บาท โดยห้างที่อยู่ในกรุงเทพฯ จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. 58 เป็นต้นไป ส่วนสาขาของห้างในต่างจังหวัดจะพร้อมจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 17 ก.พ. 58 เป็นเวลา 4 เดือน
สำหรับราคาอาหารในช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน ก.พ. 58 เช่น อาหารกลางวัน ข้าวราดแกง กับข้าว 2 อย่าง ราคา 20-50 บาทต่อจาน เพิ่มขึ้น 10 บาทต่อจานจากปีก่อนราคา 20-40 บาท โดยภาคเหนือต่ำสุดราคา 20-35 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือสูงสุด 25-50 บาท, ข้าวราดแกง กับข้าว 1 อย่าง ราคา 20-40 บาทต่อจาน เพิ่มขึ้น 5 บาทจากปีก่อนราคา 15-35 บาทต่อจาน โดย ภาคกลางและเหนือต่ำสุด ราคา 20-30 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือสูงสุด 20-40 บาท
ขณะที่ราคากับข้าวสำเร็จรูป เช่น แกงเขียวหวานบรรจุถุง ราคา 15-50 บาทต่อถุง เพิ่มขึ้น10 ต่อจานจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีราคา 15-40 บาท โดยภาคเหนือราคาต่ำสุด 15-35 บาท ภาคใต้สูงสุด 20-50 บาท, ข้าวผัดกระเพรา หมู,ไก่,เนื้อ จานละ 20-50 บาท เพิ่มขึ้น 10 บาทต่อจาน จากปีก่อนราคา 20-40 บาท โดยภาคเหนือถูกสุด ราคา 20-35 บาท ภาคใต้แพงสุด 30-50 บาท
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมการค้าภายในได้รายงานสถานการณ์ราคาอาหารปรุงสำเร็จหรืออาหารจานด่วน ทั่วประเทศในช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน ก.พ. 58 พบว่าร้านค้าทั่วไปได้ปรับราคาอาหารปรุงสำเร็จ ก๋วยเตี๋ยว และข้าวราดแกง เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5-10 บาท เนื่องจากผู้ค้าให้เหตุผลว่าเป็นการปรับขึ้นตามค่าครองชีพที่สูงขึ้น รวมถึงได้รับผลกระทบจากราคาก๊าซแอลพีจี, วัตถุดิบบางประเภท และค่าเช่าที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้กระทรวงพาณิชย์จำเป็นต้องนำมาตรการต่างๆเพื่อเสริมเป็นทางเลือก เพื่อให้ผู้บริโภคได้ซื้ออาหารที่ถูกกว่าร้านค้าทั่วไป
“หาก พิจารณาเป็นรายภูมิภาคพบว่าค่าเฉลี่ยภาคใต้จะมีราคาอาหารที่แพงกว่าภาคอื่นๆ เพราะส่วนใหญ่เป็นการปรับขึ้นราคาในช่วงที่ราคายางพารากก.ละ 150-180 บาท จนเกษตรกรมีกำลังซื้อสูงในการใช้จ่ายสินค้า แต่เมื่อราคายางพาราคาลดลงมาอยู่ในระดับ 40-50 ราคาอาหารไม่ได้ปรับลดลง และที่สำคัญราคาอาหารบางประเภทยังปรับขึ้นสวนทางกับรายได้เกษตรกร”
แหล่งที่มา : เดลินิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น