วันอังคารที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2558

ศูนย์วิจัยฯคาดกนง.คงดอกเบี้ย

941357นอกจากนี้ต้องดูการฟื้นตัวของการส่งออกเพราะยังได้รับแรงกดดันเศรษฐกิจ โลกที่อ่อนแอ รวมทั้ง ผลของการสิ้นสุดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรหรือจีเอสพียุโรป ที่อาจกระทบความต้องการสินค้าไทยของผู้นำเข้ายุโรป ส่วนปัจจัยภายนอกประเทศที่ต้องติดตามเช่น ความผันผวนในตลาดการเงินโลก และการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดซึ่งอาจกระทบต่อ กระแสการเคลื่อนย้ายเงินทุนในตลาดการเงินโลก

“ระยะสั้นและระยะ กลาง เหตุการณ์สำคัญในต่างประเทศ จะนำไปสู่ความผันผวนในตลาดการเงินโลก ไม่ว่าจะเป็นท่าทีในการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางในต่างประเทศที่จะ เริ่มมีความแตกต่างกันมากขึ้น วิกฤตการณ์ในรัสเซียและการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินของเฟดซึ่งหากเศรษฐกิจ ไทยฟื้นตัวขึ้นช้ากว่าที่คาดไว้และเหตุการณ์ดังกล่าวในต่างประเทศเริ่มส่งผล กระทบต่อตลาดการเงินในประเทศเพิ่มขึ้นก็ยังมีโอกาสที่ กนง. อาจจะพิจารณาทางเลือกในการใช้นโยบายการเงินเพื่อดูแลเศรษฐกิจเพิ่มเติมใน อนาคต”

แม้แรงกดดันเงินเฟ้อจะคลายตัวลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลกแต่ยังคงเคลื่อน ไหวในกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ซึ่งไม่น่าจะมีนัยต่อการเปลี่ยนแปลงการดำเนินนโยบายการเงินของกนง. ในระยะสั้นมากนัก นอกจากนี้ ศูนย์วิจัยฯ คาดว่าการเคลื่อนไหวของเงินเฟ้อทั่วไปเคลื่อนไหวที่1.0-2.2% เทียบกับกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อทั่วไปใหม่ของธปท. ที่ 1-4% หรือเฉลี่ยอยู่ที่ 2.5%และคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวในกรอบ 3.5-4.5%”

สำหรับประเด็นที่ ต้องติดตามคือการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศเช่น การใช้จ่ายของภาครัฐในช่วง 1-2เดือนข้างหน้าสามารถทำได้ตามเป้าหรือไม่ โดยเฉพาะในส่วนของงบลงทุน 4.49 แสนล้านบาท ซึ่งในไตรมาสแรกของปีงบประมาณอาจจะยังต่ำกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากอยู่ในช่วงของการทำสัญญาและเริ่มเบิกจ่ายรวมถึงการฟื้นตัวของภาค การบริโภคว่าจะมีความชัดเจนมากน้อยแค่ไหน นอกจากนี้ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงจะช่วยสร้างอานิสงส์ต่อการใช้จ่ายของภาค ครัวเรือนอย่างไรก็ตาม กลไกการส่งผ่านไปยังราคาสินค้าอื่นๆที่จะช่วยเกื้อหนุนการบริโภคยังไม่ปรากฏ ให้เห็นชัดเจนเนื่องจากการฟื้นตัวของภาคการบริโภคยังน่าจะถูกกดดันจากระดับ หนี้ภาครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงรวมทั้ง ราคาสินค้าเกษตรที่ยังตกต่ำอาจจะส่งผลต่อการบริโภคในต่างจังหวัดรายงานข่าวจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยแจ้งว่า ในการประชุม คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)วันที่28 ม.ค.นี้ ซึ่งเป็นนัดแรกของปี 58 คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2 % เพื่อรอดูพัฒนาการของการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทยเนื่องจากการขยายตัวของเศรษฐกิจ ไทยเริ่มเห็นสัญญาณดีขึ้นในช่วงปลายปี57 ที่ผ่านมา ทั้งในส่วนของการบริโภคภาคเอกชน นำโดยการบริโภคสินค้ากลุ่มไม่คงทน เป็นผลจากรายได้ครัวเรือนนอกภาคการเกษตรยังดีอยู่สำหรับด้านการลงทุนภาค เอกชนนั้น การผลักดันการลงทุนของภาครัฐผ่านการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณจะช่วยให้การลงทุน ของภาคเอกชนเพิ่มขึ้น

แหล่งที่มา  :  เดลินิวส์

Source: ศูนย์วิจัยฯคาดกนง.คงดอกเบี้ย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น