สถานการณ์การตกต่ำมากที่สุดในรอบ 11 ปีของเงินยูโรมีขึ้นในวันเดียวกับที่นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป ( อีซีบี ) แถลงเรื่องการเตรียมใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ ( คิวอี ) ครั้งใหญ่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของกลุ่มยูโรโซน ด้วยการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบอย่างน้อย 1.1 ล้านล้านยูโร ( ราว 41.8 ล้านล้านบาท ) ผ่านการซื้อพันธบัตรทั้งของรัฐและเอกชนเดือนละ 60,000 ล้านยูโร ( ราว 2.28 ล้านล้านบาท ) เริ่มตั้งแต่เดือนมี.ค.นี้เป็นต้นไป จนถึงเดือนก.ย.ปีหน้าเป็นอย่างต่ำ แต่ยังคงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ที่ร้อยละ 0.05 ซึ่งเป็นอัตราที่ใช้มาตั้งแต่เดือนก.ย. ปีที่แล้วทั้งนี้ ปริมาณเงินที่อีซีบีเตรียมอัดฉีดเข้าสู่ตลาดนั้นสูงกว่าที่มีการประเมินเอา ไว้ก่อนหน้านี้ 10,000 ล้านยูโร ( ราว 380,000 ล้านบาท ) ขณะที่ตลาดหุ้นทั้งในยุโรปและสหรัฐปิดในแดนบวกกันถ้วนหน้า นัยว่ามาตรการคิวอีของอีซีบีเริ่มเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนให้กลับคืน สู่ตลาดยุโรปอีกครั้งสำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ว่าสกุลเงินยูโรทำสถิติอ่อนค่าที่สุดในรอบ 11 ปี เมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยช่วงไม่กี่ชั่วโมงก่อนปิดตลาดซื้อขายเมื่อวันพฤหัสบดี ค่าเงินลดลงต่ำไปถึง 1.3167 ยูโรต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2546 ก่อนขยับขึ้นเล็กน้อยมาปิดตลาดที่ 1.367 ยูโร ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากราคาเมื่อวันพุธราวร้อยละ 2
แหล่งที่มา : เดลินิวส์
Source: เงินยูโรดิ่งสุดในรอบกว่า1ทศวรรษ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น