พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตั้งแต่ 22 พ.ค. 57 ตนพูดทุกวัน ท่านบอกเป็นร้อยๆ เรื่อง นั่นแหละก็ร้อยๆ เรื่องนั่นแหละที่ทำ เลือกทำไม่ได้ อันไหนเดือดร้อนมากก็ทำมาก อันไหนเดือดร้อนน้อยก็ทำช้าได้ เราเข้ามาหยุดความรุนแรง แก้ปัญหาเร่งด่วน เตรียมการปฏิรูป เพราะฉะนั้น ทุกอย่างต้องปฏิรูป ต้องใช้เวลาทั้งสิ้น ที่เราทำวันนี้ ทำเท่าที่ทำได้ อย่าคิดว่าตนสัญญาว่าจะต้องเสร็จเรื่องนี้ แก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ ภายในเท่านี้วัน มันทำไม่ได้ แต่ตนรับปากว่าตนจะจัดระเบียบให้ได้ภายในระยะเวลาที่ตนพูดไว้ตาม Road Map"เพราะฉะนั้น ปฏิรูปก็ว่ามา ใครทำก็ว่ามา อย่ากดดันผม เจ้าหน้าที่กดดันอยู่แล้วนะ เพราะผมกดดันเขาให้ทำไง ให้ทำ ให้เร็ว ให้ทัน พอท่านมากดดันผมมากๆ ผมก็กดดันทับเข้าไปอีก แล้วงานมันก็เละอีก ต้องใช้เวลานะครับ เห็นใจกันบ้างนะ มาตรา 44 อย่าไปกังวลกันมากนักเลย สนใจอยู่นั่นแหละพอเลิกกฎอัยการศึกก็มา 44 อีกแล้ว จาก 44 จะไปอะไรอีกล่ะ รู้สึกมันไม่ไว้ใจกันเลยนะ แต่ที่ทำผิดทำถูกเยอะแยะ ก็ไว้ใจกันมาหลายปีแล้ว ไม่เขียน รธน.แบบคิดเองทำเอง"
นายกฯ กล่าวอีกว่า เรื่องรัฐธรรมนูญ ไปคิดเอานะ ตนก็ฟังอยู่ทุกวัน มีโอกาสก็ฟัง ก็แถลงกัน ทุกคนก็ตั้งใจ ไปคิดกันแล้วกันว่า รัฐธรรมนูญควรจะเป็นอย่างไร จะเป็นรัฐธรรมนูญเพื่อการปฏิรูปอย่างไร ทำยังไงจะทำได้ ถ้าเป็นสากลอย่างเดียว เป็นแบบเดิมอย่างเดียวจะทำได้ไหม ท่านไปคิดกันมา การฟังความคิดเห็นจากต่างประเทศ ตนอยากให้ฟังคนอื่นเขาบ้างยังไง ก็ส่วนใหญ่ก็คิดกันเอง เถียงกันเอง ทะเลาะกันเองมาตลอด ไปฟังเขาสิ ประเทศเขามาอย่างไร แค่ไหน เท่านั้นแหละ แล้วท่านมาคิดเอา เลียนแบบเขาบ้าง ไม่ใช่คิดเองทำเอง แล้วทะเลาะกันเอง อยู่แค่นี้ มากี่สิบปีแล้ว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การสร้างความปรองดองก็เหมือนกัน มาตรา 44 ใช้ไม่ได้หรอก มันเป็นเรื่องของความยินยอมของแต่ละคน ว่าหัวใจคนไทยแต่ละคน แต่ละพวกที่ขัดแย้งจะยอมรับในการปรองดอง คือพูดจากัน เลิกทะเลาะกัน ไม่ใช้กำลังต่อกัน นั่นแหละปรองดอง แต่ถ้ามีความผิดอยู่แล้ว จะให้เอามาตรา 44 ไปแก้ให้ปรองดอง ให้เลิกกัน ให้ยกโทษความผิด ตนทำให้ไม่ได้ เรียกว่าถ้าใช้แบบนั้นเป็นการใช้มาตรา 44 ในทางที่ผิด ส่วนเรื่องรัฐธรรมนูญ ตนก็ฟังอยู่ทุกวันมีโอกาสก็ฟัง ก็แถลงกันทุกคนก็ตั้งใจ ไปคิดกันแล้วกันว่า รัฐธรรมนูญควรจะเป็นอย่างไร จะเป็นรัฐธรรมนูญเพื่อการปฏิรูปอย่างไร ตนอยากให้ฟังคนอื่นบ้าง เพราะส่วนใหญ่คิดกันเอง เถียงกันเอง ทะเลาะกันเองมาตลอด ไปฟังต่างประเทศเขาว่าอย่างไร ประชาธิปไตยไทย ถ้าเราทำดี โลกเข้าใจเรา วันหน้าจะได้ไม่ถูกประณามไง ในโลกใบใหญ่ ตนก็ต้องระมัดระวัง ไม่อยากให้คนประณาม ตนไม่มีความอดทนเพียงพอที่จะทำความผิด แล้วก็หลีกเลี่ยงไปเรื่อยๆ ไม่ใช่คนแบบนั้นนะ
"หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกคนคงเข้าใจในเจตนาอันแน่วแน่ของรัฐบาล เราในการแก้ปัญหาทุกอย่าง ในขณะที่เราเป็น คสช. และเป็นรัฐบาล ถือเป็นระยะที่ 1 ระยะที่ 2 ซึ่งระยะที่ 3 นั้นอีกยาวนานมาก เกิดปัญหาทับซ้อนอยู่ ต้องไปแก้ทั้งระบบอีกที" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ศูนย์ดำรงธรรม สายด่วน 1567 ประชาชนใช้บริการแล้ว 949,788 เรื่อง ดำเนินการแล้วเสร็จ 907,353 เรื่อง คิดเป็น 95.54% ประชาชนก็มีความพึงพอใจมาก ขณะที่สายด่วนรัฐบาล 1111 วันนี้ต้องช่วยกัน อย่าโทรมาแกล้ง วันนั้นตนฟังแล้วไม่สบายใจ มีทั้งผู้หญิง ผู้ชายโทรมา ผู้ชายมักจะพูดจาไม่สุภาพ ไม่เรียบร้อย รู้อยู่ มันไม่สมควร ไปรังแกสุภาพสตรีเขาแบบนี้ เขาอุตส่าห์มาทำงานให้ ชู้สาวบ้างอะไรบ้าง ทั้งหมดที่กล่าวมาแล้วนี้ สังคมไทยน่าจะดีขึ้น มีความสงบสุข ปลอดภัย ลดเหลื่อมล้ำ เท่าเทียม พูดกันเยอะแล้ว
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ส่วนการลดความเหลื่อมล้ำและให้ความเป็นธรรมนั้น ประเทศเรามีคนมีฐานะพอสมควร หรือผู้มีรายได้ปานกลาง ไม่ลำบากมาก จึงได้ให้แนวทางกระทรวงการคลังเพื่อไปพิจารณาสิทธิรักษาพยาบาล ทั้ง 30 บาทรักษาทุกโรค หรือผู้ที่มีสิทธิรักษาโดยไม่เสียค่ารักษา ว่า ผู้ใดจะเสียสละไม่ใช่สิทธิดังกล่าว เพื่อตัดงบประมาณในส่วนนี้ออกไปให้ผู้ที่มีรายได้ต่ำจริงๆ โดยจะให้มีการขึ้นบัญชี ซึ่งตนเองก็จะสละสิทธินี้ด้วย ถ้าท่านเสียสละแบบนี้ ตนว่าเป็นกุศลตนเองก็พร้อมจะสละ ไปไหนก็หาหมอเองได้อยู่แล้ว แต่คนจนเขาไม่มีโอกาสเลย ส่วนการจัดระเบียบสังคมและพื้นที่สาธารณะ ยังทำต่อไป อย่ากลับมาเป็นแบบเดิม อย่าโครมครามโยก ขรก.ทุจริต
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการป้องกันและแก้ไขการทุจริตคอรัปชั่น มีการดำเนินการมาตลอด แต่ไม่อยากให้มันโครมครามมากนัก ก็ขอให้เป็นเรื่องปกติ เรารู้อยู่แล้วว่าเป็นวาระแห่งชาติ เพราะฉะนั้น ที่เราทำอยู่วันนี้ก็พยายามทำให้เร็ว ขจัดสิ่งที่จะเกิดขึ้นมาใหม่ โดยนำระบบต่างๆ เข้ามาตรวจสอบโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ ของภาครัฐ ส่วนการปรับย้ายอย่าไปกังวลเหมือนกันนะ ปรับย้ายส่วนใหญ่ก็เป็นในวาระ เมษา ตุลา มีอยู่แล้ว ใครผิดก็ผิดน้อย ก็ย้ายตามวาระไป ไปอยู่ในตำแหน่งที่มันไม่เหมาะสม นี่มันภาคทัณฑ์ ถ้าคดีผิดกฎหมาย ทุจริตกันจริงๆ ก็ต้องเอาออกจากหน้าที่ตรงนั้นก่อน การเอาเขาออกมา แต่ไม่ได้เป็นความผิด ยังสอบสวนไม่เสร็จก็สอบต่อ ถ้าเขาอยู่อาจจะมีปัญหาหรือเปล่า ต้องเข้าใจตรงนี้ ไม่ใช่เอามาตรา 44 มาปราบโกง ต้องรับสภาพกันบ้าง ตอนทำความผิดไม่เห็นรับเลย ไม่เห็นคิดเลย ขอให้กระบวนการยุติธรรมเขาทำดีกว่า ไม่รับประกันแก้ประมงทัน 6 เดือน
แหล่งที่มา : ไทยรัฐ
Source: ช่วยคนจน 'บิ๊กตู่' ผุดโปรเจกต์นำหลักทรัพย์กู้เงินด่วนดอกเบี้ยถูก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น