ท่าทีของผู้นำอิสราเอลมีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ โทรศัพท์สายตรงไป "ชี้แจง" เรื่องการบรรลุข้อตกลงเบื้อต้นเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งเป็นผลจากการเจรจาระหว่างที่ประชุมระหว่างกลุ่ม "พี 5+1" ได้แก่สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย จีน และเยอรมนี กับคณะผู้แทนของอิหร่าน โดยทุกฝ่ายเห็นชอบข้อตกลงเบื้องต้นในประเด็นการควบคุมโครงการนิวเคลียร์ของ รัฐบาลเตหะราน ที่รวมถึงการลดจำนวนเครื่องหมุนเหวี่ยงวัสดุนิวเคลียร์ เพื่อแลกกับการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรบางส่วนจากประชาคมโลกทั้งนี้ การบรรลุข้อตกลงมีอันต้องล่าช้ากว่าเส้นตายวันที่ 31 มี.ค. อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ทุกฝ่ายยังต้องหารือกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อการลงนามอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรภายในวันที่ 30 มิ.ย.นี้สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเยรูซาเล็ม ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 3 เม.ย. ว่านายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี ประณามการบรรลุข้อตกลงในหลักการเรื่องโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน ระหว่างกลุ่มประเทศมหาอำนาจกับรัฐบาลเตหะราน ว่าเป็นกรอบความร่วมมือที่ส่งผลกระทบต่อ "ความอยู่รอด" ของอิสราเอล เนื่องจากข้อตกลงเช่นนี้ไม่ใช่ความพยายามยับยั้งโครงการนิวเคลียร์ของ อิหร่าน แต่กลับยิ่งเป็นการปูทางให้อีกฝ่ายเดินหน้าพัฒนาประสิทธิภาพของโครงการดัง กล่าวของตัวเองมากยิ่งขึ้นไปอีก
อิสราเอลเป็นประเทศที่แสดงออกอย่าง เปิดเผยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ว่าคัดค้านโครงการนิวเคลียร์ "เพื่อสันติ" ของรัฐบาลเตหะราน อีกทั้งยังเชื่อมั่นว่าอิหร่านมีเจตนาเสริมสมรรถภาพแร่ยูเรเนียมเพื่อการ ผลิตอาวุธนิวเคลียร์ สำหรับ "ทำลาย" อิสราเอล สร้างความไม่พอใจอย่างหนักให้แก่อิหร่านมาโดยตลอด ถึงขั้นที่รัฐบาลเตหะรานเคยเตือนเป็นนัย เรื่องการล่มสลายของรัฐยิวในอนาคตด้วย
แหล่งที่มา : เดลินิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น