ขณะที่นายคิมซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุถูกดำเนินคดีอาญาในหลายข้อหา ที่รวมถึงพยายามฆ่า และละเมิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ที่ห้ามชาวเกาหลีใต้แสดงความคิดเห็นสนับสนุนเกาหลีเหนือในที่สาธารณะอย่าง เด็ดขาด และเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งสืบสวนด้วยว่า คิมมีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาลเกาหลีเหนือในทางใดหรือไม่ หลังมีประวัติการเดินทางเยือนกรุงเปียงยางมาถึง 6 ครั้ง ระหว่างปี 2549-2550ส่วนอาการของลิพเพิร์ตดีขึ้นเป็นลำดับ และคณะแพทย์ผู้ทำการรักษาคาดว่า เอกอัครราชทูตสหรัฐวัย 42 ปี น่าจะออกจากโรงพยาบาลได้ภายในวันอังคารนี้สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 9 มี.ค. ว่าคณะกรรมาธิการเพื่อการรวมชาติอย่างสันติของเกาหลีเหนือ ( ซีพีอาร์เค ) ออกแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ ปฏิเสธข้อกล่าวหาของรัฐบาลเกาหลีใต้ ที่ระบุว่าทางการเปียงยางมีส่วนรู้เห็นกับการที่นายคิม คี-จอง ชายวัย 55 ปี พกมีดปลายแหลมเป็นอาวุธบุกจู่โจมทำร้ายนายมาร์ค ลิพเพิร์ต เอกอัครราชทูตสหรัฐจนได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้าและแขนซ้าย ว่าเป็นความพยายามทำลายชื่อเสียงและเกียรติยศของนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของประเทศ
นอกจากนี้ ข้อกล่าวหาทั้งหมดเป็นเพียงควาพยายามของรัฐบาลโซล ที่ต้องการปกป้องตัวเองจากภาพลักษณ์อัน "น่าเวทนา" และเพื่อปลุกระดมให้เกิดกระแสต่อต้านเกาหลีเหนือเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว สำนักข่าวกลางเกาหลี ( เคซีเอ็นเอ ) รายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เป็นบทลงโทษที่นักการทูตชาวอเมริกัน "สมควรได้รับ" ในฐานะเป็นประเทศกระหายสงคราม
แหล่งที่มา : เดลินิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น