นอกจากนี้ เบโนมาร์ยังกล่าวปกป้องประธานาธิบดีอาเบด รับโบห์ มานซูร์ ฮาดี ว่ายังคงมีสถานะเป็นผู้นำตามกฎหมายของเยเมน และปฏิเสธข้อกล่าวหาของหลายฝ่าย ว่าฮาดีซึ่งลี้ภัยอยู่ที่เมืองเอเดน ทางตอนใต้ของเยเมน เป็นผู้นำนอมินีของรัฐบาลสหรัฐสถานการณ์วุ่นวายทางการเมืองในเยเมนเริ่มรุนแรงขึ้นตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว จากการที่กลุ่มกบฏฮูซีซึ่งเป็นชาวชีอะห์และฝักใฝ่อิหร่าน ยกกำลังยึดครองสถานที่ราชการหลายแห่งในกรุงซานา หลังไม่สามารถตกลงกับรัฐบาลกลางชาวสุหนี่ในเรื่องการปฏิรูปรัฐธรรมนูญได้ และจับกุมตัวฮาดีเอาไว้ได้ช่วงหนึ่ง ก่อนที่ผู้นำเยเมนสามารถหลบหนีลงใต้มายังเมืองเอเดน ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของรัฐบาลได้สำเร็จ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ว่านายจามัล เบโนมาร์ ทูตพิเศษสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) ประจำเยเมน กล่าวต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) ผ่านวีดีโอลิงก์จากกาตาร์ ยืนยันว่าหนทางเดียวที่จะสามารถคลี่คลายวิกฤตการณ์ทางการเมืองในเยเมน คือการเจรจาอย่างสันติตามวิธีทางการทูตเท่านั้น เนื่องจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในระยะหลังกำลังฉุดรั้งให้ประเทศใกล้ตกลงสู่ หุบเหวของสงครามกลางเมืองมากขึ้นทุกขณะ ดังเช่นในซีเรีย และเป็นความขัดแย้งทางชาติพันธุ์เช่นเดียวกับที่อิรักและลิเบียกำลังเผชิญ
ทั้งนี้ เบโนมาร์เดินทางออกจากเยเมนด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย หลังกลุ่มไอเอสรับสมอ้างเป็นผู้ก่อเหตุลอบวางระเบิดหลายระลอกในกรุงซานา เมืองหลวงของเยเมน เมื่อวันศุกร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 142 ศพ และได้รับบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก ขณะที่ความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลเยเมนกับกลุ่มกบฏฮูซีทวีความรุนแรงต่อเนื่อง เมื่อกลุ่มนักรบสามารถยึดครองเมืองเทซ เมืองสำคัญทางตอนกลางของประเทศได้เมื่อวันเสาร์
แหล่งที่มา : เดลินิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น