ด้าน เจ้าหน้าที่เครือข่ายภาคประชาชนต่อต้านการค้าสุนัขข้ามชาติ (watchdog Thailand ) เปิดเผยว่า ปัจจุบันการลักลอบค้าสุนัขส่งออกไปขายประเทศเพื่อนบ้านลดลงมากหลังถูกปราบ ปรามจับกุมทุกรูปแบบ จะเหลือเพียงพ่อค้ารายย่อยที่ชำแหละขายตามหมู่บ้าน เพราะยังมีคนบางกลุ่มนิยมบริโภค โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาวจะเป็นฤดูกาลสำคัญที่นิยมบริโภค เพราะเชื่อว่าสร้างความอบอุ่นให้ร่ายกาย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ประสานงานทุกภาคส่วนเกี่ยวข้องเข้มงวดตรวจสอบปราบ ปรามต่อเนื่อง พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตามพื้นที่ชายแดนสกัดเข้มช่วงนี้ป้องกันการลักลอบส่ง ออกไปขายประเทศเพื่อนบ้านนอกจากนี้ในส่วนของรูปแบบการลักลอบพบว่า จะใช้วิธีฆ่าชำแหละสุนัขจากพื้นที่รับซื้อ เพื่อนำมาส่งต่อขายให้พ่อค้ารายย่อยเนื่องจากสะดวกในการขนส่งเลี่ยงการจับ กุม และจะได้สืบสวนหาข่าวป้องกันการลักลอบชำแหละเนื้อสุนัขส่งออกแทนการส่งตัวมี ชีวิต เบื้องต้นยังไม่มีข้อมูล อย่างไรก็ตามจะต้อเองปราบปรามต่อเนื่อง เพราะเชื่อว่าหากมีผู้บริโภคผู้ค้าจะไม่หยุดแน่นอน
ส่วนนายชูศักดิ์ พงษ์พานิชย์หัวหน้าด่านกักกันสัตว์นครพนมกล่าวว่า ในส่วนของด่านกักกันสัตว์นครพนม ปัจจุบันไม่มีสุนัขในการดูแล มีเพียงสุนัขที่ต้องรักษาการเจ็บป่วยประมาณ 10 ตัว เนื่องจากส่งต่อไปดูแลที่ด่านกักกันสัตว์ จ.บุรีรัมย์ ที่มีพื้นที่เหมาะในการดูแล แต่ในส่วนของด่านกักกันสัตว์นครนพนม จะเป็นศูนย์ดูแลฟักฟื้นสุขภาพเบื้องต้น ซึ่งในส่วนของเจ้าหน้าที่ยังคงเฝ้าระวังเข้มงวดตืดตามหาข่าว ปราบปรามการลักลอบค้าสุนัขในพื้นที่ชายแดนต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. พล.ต.ต.สุรพล พินิจชอบ รอง ผบช.ภ.4 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ณัฐนนท์ ประชุม ผกก.สส.ภ.4 พร้อมด้วย ร.ต.ท.ละม้าย สกล หัวหน้าชุดเฉพาะกิจปราบปรามการค้าสุนัขข้ามชาติตำรวจภูธรภาค 4 ร่วมกับ นายวีระ ฤกษ์วาณิชย์กุล นายอำเภอนาหว้า จ.นครพนม นายธวัช พุ่มนาค ปศุสัตว์อำเภอนาหว้า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองตำรวจ สภ.นาหว้า เจ้าหน้าที่เครือข่ายภาคประชาชนต่อต้านการค้าสุนัขข้ามชาติ(watchdog Thailand ) เข้าตรวจสอบแหล่งลักลอบค้าสุนัขภายในบ้านเลขที่ 46/1 หมู่ที่ 2 บ้านนางัว ต.นางัว อ.นาหว้าจ.นครพนม ภายหลังสืบทราบมีการลักลอบจำหน่ายเนื้อสุนัข โดยจากการตรวจสอบสามารถตรวจยึดเนื้อสุนัขที่ผ่านการชำแหละ แช่แข็งรอจำหน่าย 10 ตัว จึงทำการตรวจยึดเป็นของกลางดำเนินคดี
จากการสอบสวน นางสาวพนิดา นาโควงค์ อายุ 45 ปี เจ้าของบ้าน ให้การรับสารภาพว่า เป็นเจ้าของเนื้อสุนัข โดยรับซื้อมาจากพ่อค้าอีกทอดหนึ่ง เพื่อนำมาขายให้ลูกค้ารายย่อยตามหมู่บ้าน นำไปปรุงอาหารเป็นเมนูเด็ดในช่วงหน้าหนาว เนื่องจากเป็นที่นิยมเชื่อกันว่า บริโภคเนื้อสุนัขแล้วจะสร้างความอบอุ่นให้ร่างกาย ทำให้ในช่วงนี้ขายดีเป็นอย่างมาก
ส่วนต้นทุนซื้อมาตัวละประมาณ 200 บาท ก่อนนำมาขายเนื้อชำแหละเป็นชิ้นซึ่งจะมีพ่อค้าชำแหละมาเรียบร้อยขายชิ้นละ 100-200 บาท แล้วแต่ลูกค้าต้องการ โดยลักลอบขายมานาน เพราะไม่มีอาชีพไม่มีรายได้ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปสอบสวนขยายผลดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหา กระทำการค้าสัตว์หรือซากสัตว์เนื้อสุนัข โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ส่วนของกลางเนื้อสุนัขทางเจ้าหน้าที่ได้นำไปฝังกลบทำลายป้องกันการเกิดโรคระ บาด
แหล่งที่มา : เดลินิวส์
Source: ชุดสืบภาค4ทลายแหล่งค้าเนื้อสุนัข
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น